ทำผัดเผ็ดปลาดุกใต้ รสชาติเผ็ดร้อนตามฉบับแบบภาคใต้ งานนี้ถูกใจคนที่ทานของเผ็ดๆ รสชาติเข้มๆ ต้องยกให้เมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าทำ น่าทานเป็นอย่างมาก ส่วนใครไม่ชอบทานเผ็ดร้อนต้องลองดูสักครั้ง รับรองว่า ควันออกหูอย่างแน่นอน
วัตถุดิบทำผัดเผ็ดปลาดุกใต้
วัตถุดิบ | ปริมาณ |
พริดสดเขียวและแดง | ตามความชอบ |
กระเทียม | 5 กลีบใหญ่ |
หอมแดง | 3 หัวขนาดกลาง |
กะปิ | 1 ช้อนโต๊ะ |
ตะไคร้ | 2 ท่อน |
ข่า ขมิ้น | ถ้ามี |
ผิวมะกรูด | ตามชอบ |
ปลาดุกล้างสะอาด | 1 ตัว |
น้ำมันพืช | ใส่พอกะทะมัน |
ใบมะกรูด | 4-5 ใบ |
น้ำปลา | ตามความชอบ |
น้ำตาล | ตามความชอบ |
พริกไทยดำ | 1 กรัม |
เครื่องแกงผัดเผ็ดปักษ์ใต้ | 1 -4 ช้อนโต๊ะ |

ขั้นตอน ทำผัดเผ็ดปลาดุกใต้
1.นำทุกอย่างมาโขลกรวมกันไม่จำเป็นต้องละเอียดมาก พริกไทดำจะขาดเสียไม่ได้ในการทำเครื่องแกง จากนั้นใส่น้ำมันลงกะทะรอจนร้อนและนำเครื่องแกงลงผัด เมื่อเครื่องแกงหอมได้ที่ให้เราใส่ปลาดุกลงไป
2.ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลบวกกับเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย คลุกเคล้ากันอย่างเบามือ แล้วค่อยๆคนบ่อยๆ ปล่อยให้เครื่องแกงซึมเข้าเนื้อปลา ผัดให้น้ำงวด
3.ใส่ใบมะกรูดลงไปแล้วผัดต่ออีกสักพัก
4.ตักใส่จานพร้อมทาน
เคล็ดลับ
- ลักษณะของผัดเผ็ดปลาดุกจะมีน้ำขลุกขลิก
- วิธีการล้างปลาให้ใส่เกลือป่นลงไปคลุกให้ทั่วชิ้นปลา เพื่อที่จะล้างเมือกและกลิ่นคาวของปลาออกให้หมด แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าทำซ้ำ 2-3 ครั้งเนื้อปลาจะไม่มีกลิ่นคาว
- ควรเลือกปลาดุกอุยเพราะจะได้เนื้อปลาที่สีสวยไม่เละ รสชาติอร่อยกว่าปลาดุกด้าน

คุณค่าทางโภชนาการ ผัดเผ็ดปลาดุกใต้
+ ปลาดุก เป็นปลาที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ มีปริมาณแคลอรีและไขมันต่ำ ธาตุปรอทต่ำ มีทั้งวิตามินบี 12 โอเมก้า ทรี และโอเมก้า ซิกซ์ (Omega 6) ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่ร่างกายของเราสร้างเองไม่ได้ สามารถช่วยลดคอเลสเทอรอลในเลือด ส่วนปลาทูน่าเป็นปลาที่มีโปรตีนไขมันต่ำ มีวิตามินบี 12 รวมทั้งแคลเซียมและธาตุเหล็ก เหมาะสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ แต่ควรกินปลาทูน่าที่สดจากธรรมชาติจะได้ประโยชน์ที่ดีกว่า
+ เครื่องแกง
+ พริก ขึ้นชื่อว่า “แกง” แน่นอนต้องมีพริกเพื่อเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านและสีสันที่น่าทานยิ่งขึ้น แต่น้อยคนจะรู้ถึงประโยชน์สุดล้ำที่ฟภายในเม็ดเล็กๆ.. “พริก” มีวิตามินซีสูง หรือ แอสคอร์บิก ที่ช่วยขยายเส้นเลือดในลำไส้และกระเพาะอาหารทำให้ดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น สารแคปไซซิน (Capsaicin) ที่ทำให้พริกเผ็ดร้อน นั้น มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ หัวไหล่ แขน บั้นเอว และส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ด้วย พริกจึงนับเป็นสมุนไพรคู่ครัวที่ควรมีติดบ้าน
+ กระเทียม มีอยู่ในเกือบทุกเครื่องแกงไทย ไม่ว่าจะเป็นกระเทียมสดหรือแห้ง หากทานเป็นประจำจะสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันและกล้ามเนื้อหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลัน ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ดีกับคนที่เป็นโรคอ้วน และช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้กระเทียมยังมีสรรพคุณ ช่วยขับลม แก้จุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์ และไวรัสอีกด้วย
+ มะกรูด ตัวจิ๋วในเครื่องแกงแต่แฝงด้วยประโยชน์ล้ำ ใช้ได้ทั้งผิวผลและใบ มีกลิ่นหอมชื่นใจเป็นเอกลักษณ์ ผิวสรรพคุณขับลมในลำไส้ ขับระดู แก้วิงเวียน ส่วนใบนั้นอุดมด้วยน้ำมันหอมระเหย ช่วยขับลมในลำไส้ ลดความดันโลหิต แก้ลักปิดลักเปิด แก้จุกเสียด แก้เสมหะ แก้ไอ ช่วยป้องกันรังแคให้ผมดกดำ และยังช่วยให้เจริญอาหารขึ้นอีกด้วย
+ กะปิ ในกะปีนั้นมีวิตามินดีที่กระดูกและฟันของเราต้องการ มาก ป้องกันฟันผุ ในกะปิมีจุลินทรีย์ที่เป็นศัตรูกับแบคที่เรียในปากมันจะต่อสู้กับแมงที่จะมากินฟันเรา ช่วยป้องกันการเป็นเลือดจางเนื่องจากมีวิตามินบี 12 มีกรดน้ำมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอร์รอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ที่เป็นอันตราย ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองแตก การทำงานของสมองที่ดีขึ้นเพราะว่าในกะปีมีน้ำมันที่ช่วยบำรุงระบบประสาทของเรา
+ ข่า สรรพคุณในทางยาของข่า เช่น ช่วยในการย่อยอาหาร ลดการบีบตัวของลำไส้ ช่วยขับลมได้ดี รักษาลมพิษ กลากเกลื้อน โรคน้ำกัดเท้า แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รักษาอาการปวดเมื่อย แก้ลมพิษ บรรเทาอาการปอดบวม บรรเทาอาการในระบบทางเดินหายใจ
+ ขมิ้น ขมิ้นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยในการชะลอวัยและชะลอการเกิดริ้วรอย
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังมีสุขภาพดีแข็งแรง ขมิ้นชันอาจมีบทบาทช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เช่น โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งปากมดลูก ขมิ้นสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยลดอาการของโรคเกาต์ ช่วยขับน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
เพื่อนๆลองเอาวิธีการทำผัดเผ็ดไปลองทำกันนะ อร่อยมากเลยทีเดียว แถมยังได้ประโยชน์มากมาย จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของเราจริงๆเลยทีเดียว
บทความเพิ่มเติม : 5 สูตรของว่าง ทานเล่นระหว่างเรียนออนไลน์ ,
ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจ : 10 อันดับหลักทรัพย์